>>ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัสเมอร์สที่ต้องรู้จักก่อนเป็นเหยื่อ<<
ไวรัสเมอร์ส ไวรัสชนิดนี้ต้นกำเนิดจากประเทศซาอุดิอาระเบียและยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่ามีต้นกำเนิดจากคนหรือสัตว์หรือเชื้อใด แต่มีผลวิจัยระบุว่าอาจมีแพะเป็นพาหะนำเชื้อ และเป็นเชื้อไวรัสใกล้เคียงไวรัสในค้างคาวสายพันธุ์หนึ่ง ทั้งนี้วัสเมอร์สเป็นเชื้อไวรัสเดียวกับโรคซาร์ส (Severe Acute Respiratory Syndrome-SARS) ที่แพร่ระบาดอย่างหนักในเอเชียเมื่อปี พ.ศ. 2546
เชื้อไวรัสเมอร์ส |
โรคเมอร์ส
เป็นโรคที่พบใหม่มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัสชนิด corona virus ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม
single-stranded RNA virus ไวรัสชนิดนี้มีหลายสายพันธุ์
บางสายพันธุ์เป็นไวรัสที่ติดเชื้อ อยู่บริเวณส่วนต้นของทางเดินหายใจในคน
เป็นสาเหตุอาการโรคหวัดทั่วๆไป
แต่มีบางสายพันธุ์ที่ติดเชื้อในสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่า เช่น อูฐ และค้างคาว
เป็นต้น
ต่อมาไวรัสสายพันธ์นี้ได้มีการพัฒนาจนสามารถแพร่เข้ามาติดเชื้อในคนได้
โดยพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อครั้งแรกในประเทศ ซาอุอาราเบีย ในปี ค.ศ.2012 ผู้ป่วยมีอาการหนาวสั่น
ไอ หายใจไม่สะดวก ในที่สุดอาจเสียชีวิต
อาการของโรคมีความรุนแรงแตกต่างกันตั้งแต่รุนแรงมากจนถึงรุนแรงน้อย
และมีประมาณร้อยละ 20 ที่ไม่แสดงอาการเลย
ความร้ายแรงของไวรัสเมอร์สคอฟ
ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเมอร์สจะมีอาการคล้ายเป็นโรคระบบทางเดินหายใจมีไข้สูงไอ
หายใจหอบ หายใจขัด ถ่ายเหลว หากเป็นหนักจะเสียชีวิตทันทีภายใน 3 -4 สัปดาห์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุเพศชาย
โดยเชื้อจะอยู่ในละอองน้ำมูกน้ำลายผู้ป่วย ติดต่อได้ง่ายจากการไอจาม
โดยผู้ป่วยเกือบทั้งหมดร้อยละ 96 มีโรคประจำตัว 1 โรคหรือมากกว่า ได้แก่เบาหวาน รองลงมาคือความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคไต
ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์สคอฟ
หลังจากเริ่มมีรายงานผู้ป่วยตั้งแต่วันที่20กันยายน 2556 เป็นต้นมายังพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องใน
11 ประเทศ ได้แก่ จอร์แดน ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ อังกฤษ
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฝรั่งเศส ตูนีเซีย เยอรมนี อิตาลี โอมาน และคูเวต
ล่าสุดพบผู้ที่เสียชีวิตหลังจากติดเชื้อไวรัสเมิร์สคอฟที่ประเทศฟิลิปปินส์และมาเลเซีย
โดยองค์การอนามัยโลกรายงาน ณ วันที่ 16 เมษายน 2557 พบผู้ป่วยยืนยัน 238 ราย เสียชีวิต 92 ราย
แม้ว่าไวรัสเมอร์สคอฟสายพันธุ์ใหม่จะยังไม่มาถึงประเทศไทย แต่ควรรู้และป้องกันไว้ก่อนเพราะเป็นเชื้อใหม่ล่าสุดที่ยังไม่มียารักษา
สำนักข่าวไทย
18 มิ.ย. -กระทรวงสาธารณสุขแถลงพบผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจตะวันออกกลาง
หรือโรคเมอร์ส รายแรกในไทย เป็นชาวตะวันออกกลางในวันนี้ (18 มิ.ย.)
มาทำความรู้จักกับโรคนี้เพื่อจะได้ป้องกัน หลังพบเสียชีวิตแล้วกว่า 500 คนทั่วโลก ผู้ป่วยกว่า 1,300 ราย
ส่วนเกาหลีใต้ยังหยุดเชื้อไวรัสเมอร์สไม่อยู่
วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 3 คน
ขณะที่ผู้ติดเชื้อยังพุ่งไม่หยุด
ทำให้เกาหลีใต้ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้อเมอร์ส
มากที่สุดถ้าไม่นับภูมิภาค
ตะวันออกกลางต้นตอของการแพร่ระบาด
ตะวันออกกลางต้นตอของการแพร่ระบาด
1. กินร้อน- ช้อนกลาง- ล้างมือ
2. ใช้ผ้าหรือกระดาษปิดปากเมื่อจาม
3. หลีกเลี่ยงไปสถานที่ที่ผู้คนแออัด
4. สวมหน้ากากอนามัยหากต้องไปสถานที่ที่ผู้คนจำนวนมากโดยเฉพาะช่วงพิธีฮัจญ์และอุมเราะห์
5. หมั่นออกกำลังกายและรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
6. มาพบแพทย์พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่หากมีประวัติเดินทางไปประเทศที่มีการระบาดของเชื้อ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย การ์ตา จอร์แดน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ ฝรั่งเศส ตูนิเซีย เยอรมนี อิตาลี โอมาน คูเวต มาเลเซีย กรีซ และฟิลิปปินส์
6. มาพบแพทย์พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่หากมีประวัติเดินทางไปประเทศที่มีการระบาดของเชื้อ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย การ์ตา จอร์แดน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ ฝรั่งเศส ตูนิเซีย เยอรมนี อิตาลี โอมาน คูเวต มาเลเซีย กรีซ และฟิลิปปินส์
หากสงสัยว่าตนเองมีอาการดังกล่าวให้รีบพบแพทย์ทันที ไม่ต้องรอถึง 2 วัน หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติม
โทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
ตลอด 24 ชั่วโมง
- จากมูลข้างต้นจะเห็นว่า ไวรัสเมอร์สถือเป็นไวรัสที่มีอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างน่ากังวลพอสมควร ดังนั้นช่วงเวลานี้เราจึงต้องดูแลสุขอนามัยของตัวเองเป็นอย่างดี อย่างน้อยก็น่าจะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากไวรัสเมอร์สได้บ้าง
http://www.bpl.co.th/pweb/index.php/academic-professional/academic-articles/132middle- east-respiratory-syndrome.html
http://www.tnamcot.com/content/212236
http://health.kapook.com/view120467.html
http://www.momypedia.com/article-6-35-617/ระวังไวรัสเมอร์ส-mers-cov-ระบาด-เชื้อโรคไม่มียารักษา/
http://health.haijai.com/1392/